เด็กแรกเกิดหรือเด็กทารกนั้นเป็นช่วงวัยที่พ่อแม่ควรเอาใจใส่และดูแลอย่างใกล้ชิดมากที่สุด เนื่องจากว่าเมื่อเด็กๆ เหล่านี้พึ่งคลอดออกมาจะไม่สามารถช่วยเหลืออะไรตัวเองได้เลย นั่นจึงเป็นสิ่งที่พ่อแม่ทุกคนจะต้องประคบประหงมเป็นอย่างดี เรื่องที่สำคัญที่สุดคงหนีไม่พ้นเรื่องของอาหารสำหรับเด็กแรกเกิด เหตุเพราะเด็กในวัยนี้ยังไม่มีภูมิคุ้มกันหรือภูมิต้านทานมากพอในการที่จะทานอาหารเหมือนเราๆ ทั่วไป รวมไปถึงระบบย่อยและระบบต่างๆ ภายในร่างกายยังทำงานได้ไม่เต็มที่ การเลือกอาหารที่เหมาะสมจึงมีความจำเป็นและเป็นสิ่งที่ควรใส่ใจมากที่สุด โดยช่วงอายุระหว่างแรกเกิดจนถึง 1 ขวบ ควรที่จะให้อาหารสำหรับเด็กดังนี้
ถ้าหากเป็นเด็กแรกเกิดจนถึงอายุประมาณ 6 เดือน อาหารที่ดีที่สุดสำหรับเด็กในวัยนี้ก็คือ นมแม่ เหตุเพราะนมแม่ถือว่าเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญที่สุดสำหรับเด็กแรกเกิดในการสร้างภูมิคุ้มกันและการเสริมสร้างพัฒนาการต่างๆ ให้กับเจ้าตัวน้อย ถึงได้มีการบอกอยู่ตลอดว่าอาหารที่มีความสำคัญกับเด็กมากที่สุดนั่นก็คือนมแม่ มันเหมือนกับว่านมแม่นั้นมีสารอาหารทุกอย่างที่ครบถ้วนตามความต้องการที่เด็กในวัยนี้ควรจะได้รับ ที่สำคัญก็คือการให้นมแม่กับเด็กนั้นไม่ใช่เพียงแค่การให้จนถึงอายุประมาณ 6 เดือนเท่านั้น ถ้าหากเป็นไปได้ก็ควรจะให้เด็กได้ทานนมแม่ไปจนถึงอายุประมาณ 1 ขวบเลยได้ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ เพราะนั่นจะทำให้สุขภาพร่างกายของเขาแข็งแรงสมบูรณ์อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเมื่อเด็กมีอายุเกิน 6 เดือนไปแล้วก็เริ่มที่จะให้อาหารอย่างอื่นผสมเข้าไปด้วยได้
โดยในช่วงเวลา 6-8 เดือน เป็นช่วงเวลาที่เด็กต้องได้รับการฝึกให้หัดเคี้ยว อาหารที่ควรให้เด็กได้ทานก็ควรเป็นของเหลวที่ความใกล้เคียงกับนมแม่ แต่ว่าเด็กเองก็ยังสามารถที่จะบดเคี้ยวได้บ้างในบางคำ อาทิ ข้าวบดนำมาต้มกับไข่แดงและตำลึง หรือว่ากล้วยบดก็ได้เช่นเดียวกัน ส่วนในช่วงเวลาตั้งแต่ 9-12 เดือน ก็เริ่มที่จะมีพัฒนาการในการในด้านของการทานมากขึ้น โดยควรให้อาหารที่มีลักษณะเหมือนข้าวต้มบดหยาบๆ ผสมกับอาหารที่เคี้ยวได้ง่าย อาทิ ตำลึกต้มสุก แครอทหั่นบางต้มสุก เป็นต้น
โดยปริมาณของอาหารควรจัดให้พอดีกับเด็กในวัยต่างๆ อย่าให้เขาทานมากหรือน้อยจนเกินไป ที่สำคัญเวลาป้อนอาหารทุกครั้งต้องให้เด็กสนใจในการทานอาหาร อย่าพยายามให้เขาสนใจในสิ่งรอบข้างเพราะนั่นจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ไม่อยากทานอาหารได้นั่นเอง