การรักษาอาการเจ็บป่วยนั้น ปัจจุบันได้มีแนวทางการรักษามากมาย เพื่อให้การดูแลผู้ป่วยเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น เราอาจจะคุ้นเคยกับการรักษาแพทย์ทางเลือกอย่าง ฝังเข็ม แพทย์แผนโบราณ นวด และอีกมากมาย วันนี้เราจะมาแนะนำแนวทางการรักษาอีกรูปแบบหนึ่งที่น่าสนใจมาก นั่นก็คือ โภชนาการบำบัด วิธีนี้คืออะไรเรามาทำความเข้าใจกัน Continue reading
Category Archives: การเตรียมอาหารสำหรับเด็กในช่วงวัยต่างๆ
อาชีพเกี่ยวกับการรักษาโรค รักษาอาการเจ็บป่วย หรือ อาการผิดปกติต่างๆเยอะขึ้นในปัจจุบันนี้ เพื่อเป็นทางเลือกในการรักษา ร่วมถึงส่งเสริมการรักษาด้วย บางสายงานเราอาจจะเคยได้ยิน แต่บางสายงานก็ไม่เคยได้ยินมาก่อน อย่างเช่น นักโภชนาการอาหาร เค้าคือใครสำคัญอย่างไร Continue reading
‘อาหารคลีน’ คือ ลักษณะการปรุงอาหารในอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งได้รับความนิยมในปัจจุบันมาก เพราะผู้คนในยุคปัจจุบันนี้ เล็งเห็นความสำคัญของสุขภาพกันมากขึ้น โดยเฉพาะคุณสาวๆที่อยากมีรูปร่างดี สวยงาม และแสวงหาหนทางในการกิน อันเป็นปัจจัยหนึ่งในการส่งเสริมสุขภาพ Continue reading
เด็กถือว่าเป็นวัยที่ผู้ใหญ่อย่างเราๆ จำเป็นต้องดูแลให้ดีในทุกๆ ด้านโดยเฉพาะในเรื่องของอาหารการกิน เพราะเด็กเหล่านี้ยังไม่สามารถเลือกทานอาหารด้วย Continue reading
เรื่องของอาหารการกิน เป็นสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้ แต่ละช่วงชีวิตของคนเราก็จะมีลักษณะของโภชนาการที่เหมาะสมแตกต่างกันไป มาลองดูว่า ในทางการแพทย์แล้ว มีคำแนะนำอย่างไรบ้าง
วัยทารก
ช่วงเป็นทารกวัยแรกเกิดตั้งแต่ 1- 6 เดือน ยังไม่ต้องการอาหารอื่นนอกจากนมแม่ หรือนมผงดัดแปลงสำหรับทารก มีปัญหาคือทารกบางคนอาจแพ้นมวัว ดังนั้นถ้าไม่แน่ใจ ต้องรีบปรึกษาแพทย์ทันที สำหรับนมแม่ถือว่าเป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก เพราะประกอบด้วยสารอาหารต่างๆที่ทารกต้องการอย่างครบถ้วน ทั้งนี้คนเป็นแม่เองก็ต้องระวังการทานอาหารหรือรับสิ่งต่างๆเข้าร่างกาย เพราะมันจะส่งผลคือนมที่ให้ทารกโดยตรง ซึ่งเมื่อถึงอายุ 6 เดือน จึงให้เริ่มอาหารอื่นๆเพิ่มรวมถึงเข้าช่วงหย่านมด้วย แต่โดยรวมแล้ว ทารกก็ยังคงต้องการนมแม่และนมผงสลับกันไปบ้าง อย่างน้อยอายุ 1 ขวบ
วัยเด็ก 1-13 ปี
ช่วงวัยเด็กจะมีการเจริญเติบโตรวดเร็ว ต้องการอาหารที่ให้พลังงานสูง สำหรับเด็กที่กำลังจะพ้นช่วงทารก เข้าช่วงหัดเดิน ยังต้องพึ่งอาหารนิ่มๆที่ไม่ต้องเคี้ยวอยู่ ผลไม้เล็กๆหรือข้าวต้มก็เหมาะกับร่างกายจนกระทั่งเข้าช่วงวัย 5 ขวบ ก็สามารถทานอาหารคล้ายผู้ใหญ่ได้แล้ว แต่ต้องระวังเรื่องไม่ควรเติมเกลือลงในอาหารเด็กเพราะจะไปขัดขวางแคลเซียมในร่างกายที่จะส่งผลต่อการเจริญเติบโตของกระดูกและกล้ามเนื้อ นม โปรตีน เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้
อาหารเช้า คือมื้อที่สำคัญที่สุดสำหรับเด็กในการพัฒนาเรื่องความจำและการทำงานของสมองต่อไปเมื่อเข้าวัยรุ่นด้วย
วัยรุ่น 13-18 ปี
เป็นวัยที่มีการพัฒนาและการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ต้องการอาหารที่ให้พลังงานสูง เป็นช่วงที่มักเรียกว่า วัยกำลังโต จึงพร้อมทานทุกอย่างที่ขวางหน้า เด็กช่วงวัยนี้จะกินเก่งมาก บางคนที่ไม่ค่อยกินตอนวัยเด็ก อาจจะมากินเยอะในช่วงนี้เลยก็ได้ เป็นจุดที่เด็กมักจะอ้วนเกินไปเพราะทานอาหารประเภทไขมันหรือ Junk Food ถ้าเด็กวัยนี้อ้วนเกินไป สิ่งสำคัญไม่ใช่การอดมื้ออาหาร แต่ควรส่งเสริมให้ออกกำลังและทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ จะช่วยคุมน้ำหนักตัวและเผาผลาญพลังงานได้ดีกว่ามาก
สารอาหารสำคัญอีกประการคือ พวกที่มีธาตุเหล็ก โดยเฉพาะเพศหญิงซึ่งจะสูญเสียธาตุเหล็กไปพร้อมประจำเดือน แนะนำอาหารประเภท ปลา เนื้อสัตว์ ถั่ว
วัยผู้ใหญ่ 19-50 ปี
ความต้องการทางโภชนาการจะไม่ค่อยแตกต่างกันเท่าไรนัก ยกเว้นผู้หญิงมีครรภ์ จะต้องการอาหารประเภทที่มีเส้นใยและแคลเซียม โปรตีน น้ำนม ขณะเดียวกัน โรคหลายอย่างก็จะเริ่มสะสมก่อตัวในช่วงนี้แล้ว คนที่มีน้ำหนักมากหรือมีโรคประจำตัวจึงต้องเริ่มควบคุมประเภทอาหารที่ทานให้มากขึ้น มีข้อแนะนำคือ คนวัยนี้ควรดื่มน้ำให้มาก และควบคุมการดื่มแอลกอฮอล์ซึ่งจะไปทำลายตับ
วัยสูงอายุ 51 ขึ้นไป
เป็นช่วงวัยที่ระบบเผาผลาญในร่างกายลดลงมาก กิจกรรมทางกายน้อยลง ดังนั้นร่างกายคนส่วนใหญ่ในวัยนี้จะต้องการอาหารน้อยลง แต่เน้นที่มีสารคุณประโยชน์มากขึ้น กลุ่มที่เน้นคือผักและผลไม้บางชนิด เช่น กล้วยสุก นอกจากนี้ยังต้องการแคลเซียมเพื่อมาซ่อมแซมส่วนกระดูกมากด้วย หากขาดไปก็อาจจะเป็นภาวะกระดูกพรุนได้ และที่สำคัญคือ การดื่มน้ำต้องมากพอในแต่ละวัน
เรื่องการให้ความสำคัญกับหลักโภชนาการกลายเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญของโลกในศตวรรษที่ 21 เพราะแม้ว่าวิวัฒนาการทางการแพทย์จะก้าวหน้าขึ้น ทำให้ผู้คนอายุยืน เอาชนะโรคร้ายได้ แต่ก็กลับมีปัญหาเรื่องโรคที่เกี่ยวกับความอ้วนและจากอาหารการกินตามมามากในสังคมเมืองตามมาแทน ดังนั้นเรื่องโภชนาการตามหลักวิทยาศาสตร์จึงได้นำมาใช้ในหลายวงการเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องการกินอยู่ของผู้คน
แล้วโภชนาการคืออะไร มันคือความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์สาขาหนึ่ง ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับระบบการเปลี่ยนแปลงต่างๆของสารอาหารที่เข้าไปในร่างกาย ไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงต่างๆที่เกิดจากกระบวนการของสารอาหารเมื่อไปหล่อเลี้ยงเซลล์ เนื้อเยื่อ และควบคุมการทำงานของอวัยวะต่างๆภายในร่างกาย
ดังนั้นความรู้เรื่องหลักโภชนาการจึงไม่ใช่เพียงแค่จัดสรรการบริโภคหรืออาหารที่สะอาด สารอาหารครบถ้วน แต่ยังมุ่งเน้นไปที่การเลือกและปรุงแต่งอาหารที่จะส่งผลประโยชน์ต่อร่างกายแล้วให้มีสุขอนามัยกับประสิทธิภาพนั้นๆได้มากที่สุด ตามแต่ช่วงอายุหรือสาขาอาชีพของผู้คน ซึ่งก็มีความแตกต่างกันออกไปอีก
มีคำกล่าวโบราณที่ว่า เราจะเป็นในสิ่งที่เรากิน “You are what you eat” คำกล่าวนี้ถือว่าเป็นตามนั้นจริงๆ เพราะสิ่งต่างๆ ที่ประกอบขึ้นเป็นตัวเรานั้นล้วนมาจากอาหารที่เรากินเข้าไป เริ่มตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ จนโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ อาหารที่เข้าไปในร่างกายทุกวันคือสิ่งที่จะทำให้ตัวเราเป็นเช่นนั้น ไม่ว่าจะอยู่ได้อย่างปกติสุข หรือมีโรคภัยไข้เจ็บ เป็นที่ยอมรับกันมานานแล้วว่าอาหารคือส่วนประกอบหนึ่งที่ส่งผลต่อความแข็งแรงและความเจ็บป่วยได้ ถ้าทานไม่ถูกสุขลักษณะ
องค์กรอนามัยโลก ให้คำจัดกัดความของคำว่าสุขภาพ หมายถึง สุขภาวะ (Well bing) ที่สมบูรณ์ทั้งทางกาย ใจ จิตวิญญาณ สามารถจะอยู่ในสังคมได้อย่างเป็นสุข โภชนาการจึงเข้ามาช่วยตอบโจทย์ในเรื่องนี้
ในหลายวงการ เช่น การแพทย์ กีฬา ความรู้เรื่องหลักโภชนาได้นำมาพัฒนาปรับปรุงแล้วใช้งานให้ถูกหลัก เช่นในการแพทย์ จะให้ความสำคัญกับอาหารเพื่อบำรุงร่างกายหรือช่วยเร่งการฟื้นฟูจากอาการเจ็บป่วยของคนไข้ โดยจะต้องไม่ให้โทษหรือไปกระตุ้นอาการเจ็บป่วย
หรือสำหรับผู้เป็นโรคอ้วน น้ำหนักเกิน หรือมีปัญหาสุขภาพ ไม่สามารถออกกำลังกายหักโหมหนักๆติดต่อกันได้ เรื่องนี้ก็ได้นำเข้ามาช่วยอย่างมาก เช่นการบริโภคคลีน เน้นประโยชน์ในการเผาผลาญ ไม่เน้นแป้งหรือไขมัน
ในวงการกีฬา มีการนำมาใช้เพื่อพัฒนาร่างกายของนักกีฬาให้แข็งแรง สามารถทำผลงานได้ดีขึ้น เราจะเห็นว่านักกีฬาที่ประสบความสำเร็จในยุคนี้ ล้วนเพาะร่างกายขึ้นมาอย่างดีเยี่ยม การรับสารอาหารที่เหมาะสมก็เป็นส่วนสำคัญ
แน่นอนว่า ในชีวิตประจำวัน เราคงไม่อาจทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ได้ตลอดเวลา ดังนั้นศาสตร์นี้จึงมีขึ้นเพื่อหาทางชดเชยหรือทดแทนในส่วนที่ร่างกายขาดไปเช่นกัน
ช่วงวัยทารกหรือวัยเด็กเล็กนั้นถือว่าเป็นวัยที่ค่อนข้างต้องใส่ใจและทะนุถนอมเป็นอย่างมาก เนื่องจากว่าเด็กในวัยนี้ยังแทบจะช่วยเหลืออะไรให้กับตัวเองไม่ได้เลย พ่อแม่หรือคนเลี้ยงดูจึงเสมือนเป็นตัวช่วยสำคัญในการที่จะทำให้พวกเขามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง เติบโตไปเป็นคนที่ดีของสังคมได้ เรื่องอาหารการกินก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เพราะคนทุกๆ คนนั้นอาศัยอยู่บนโลกนี้ได้ปัจจัยหลักๆ ก็มาจากเรื่องของอาหาร เพราะฉะนั้นการจะเลือกอาหารให้กับเด็กเล็กทานนั้นพ่อแม่หรือคนดูแลจำเป็นจะต้องใส่ใจเป็นพิเศษ ด้วยความที่เด็กในวัยนี้เองก็ยังมีภูมิคุ้มกันโรคต่างๆ ไม่ดีพอ หากให้อาหารที่ไม่เหมาะสมก็อาจส่งผลต่อการเป็นโรคต่างๆ ได้เช่นเดียวกัน ลองมาดูเมนูแนะนำสำหรับเด็กเล็กว่าควรทานอะไรบ้าง
- อาหารจำพวกธัญพืช – เด็กในวัยนี้สามารถเริ่มทานธัญพืชจำพวก ข้าว, ข้าวโอ๊ต ได้แล้ว แต่ประเด็นสำคัญก็คือต้องต้มให้สุกและบดให้ละเอียดจนถึงขั้นเละเลยก็ได้ หรืออาจจะให้ทานโจ๊กก็ได้ด้วยเช่นเดียวกัน อาจจะใส่ซีอิ๊วขาวเล็กน้อยให้มีรสชาตินิดหน่อยเพื่อให้เด็กนั้นอยากทานมากยิ่งขึ้น
- ผัก – เป็นอาหารที่ควรหัดให้เด็กได้รู้จักทานตั้งแต่เล็กๆ โดยวิธีการก็คือต้มให้สุกและบดให้ละเอียดโดยอาจจะใส่ผสมลงไปกับข้าวต้มหรือโจ๊กก็ได้เช่นเดียวกัน หรืออาจจะให้ทานเป็นน้ำผักเพื่อสุขภาพก็สามารถทานได้ แต่ห้ามให้ผักดิบกับเด็กทานโดยเด็ดขาด โดยผักที่แนะนำอย่างมากก็เช่น แครอท, ฟักทอง, บร็อคโคลี่ เป็นต้น
- ไข่ – ถือว่าเป็นอาหารเสริมชั้นยอดที่สุดสำหรับเด็กเล็กเลยก็ว่าได้ เริ่มต้นจากการให้ไข่แดงเด็กได้ทานก่อน วิธีการก็คือนำไปต้มจนสุกและให้ทานคำเล็กๆ ส่วนไข่ขาวนั้นไว้ให้รอโตสักประมาณ 1 ขวบเพื่อให้มีฟันและเริ่มมีภูมิคุ้มกันที่ดีจึงค่อยให้ทาน อีกอย่างคือเด็กส่วนมากนั้นมักจะชอบแพ้โปรตีนจากไข่ขาวด้วย
- ผลไม้ – เมื่อเด็กเริ่มโตได้สักประมาณ 4-5 เดือน ผลไม้เป็นอาหารที่ควรเริ่มให้เด็กได้รู้จักทาน ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องทำการต้มให้สุกและทำการบดให้ละเอียด โดยอาจจะใช้การปั่นในเครื่องปั่นก็ได้เช่นเดียวกัน แต่เป็นสิ่งสำคัญที่เด็กต้องเริ่มทานตั้งแต่ยังเล็ก ผลไม้ที่นิยมและแนะนำ เช่น กล้วย, อะโวคาโด, มะม่วงสุก เป็นต้น
เมนูอาหารเหล่านี้เป็นเมนูอาหารที่เหมาะสมสำหรับเด็กเล็ก อย่างไรก็ตามการจะให้ทานอะไรเป็นครั้งแรกต้องคอยสังเกตปฏิกิริยาตอบสนองให้ดีด้วยว่าเด็กมีอาการแพ้หรือไม่ เพราะถ้าหากแพ้ให้หยุดทานอาหารประเภทนั้นทันที
วัยเด็กเป็นช่วงที่ร่างกายกำลังเจริญเติบโต เป็นวัยที่เริ่มที่จะเรียนรู และหาประสบการณ์ มักจะมีการทำกิจกรรมอยู่อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย กิจกรรมในโรงเรียน หรือจะเป็นการอ่านหนังสือ ดังนั้นร่างกายจึงต้องการสารอาหารที่พร้อมไปด้วยคุณประโยชน์ที่สามารถนำมาสร้างเสริมร่างกายที่อยู่ในชาวงเจริญเติบโต และพัฒนาสมองไปในเวลาเดียวกัน โภชนาการในวัยเด็กนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เพราะว่าเด็กในวัยนี้จะต้องการสารอาหารที่มีคุณค่ามากกว่าในวัยอื่น
การเลือกโภชนาการในวัยเด็กอย่างเหมาะสมนั้น นับเป็นปัจจัยหลักในการเสริมสร้างพัฒนาการของเด็ก ในเด็กช่วงอายุ 1 -2 ขวบ จะมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งร่างกาย และสมอง การขาดสารอาหารในระยะนี้ จะส่งผลต่อสติปัญญาทำให้การเรียนรู้นั้นด้อยลง การเจริญเติบโตทางร่างกายนั้นช้าลง ทำให้ร่างกายไม่แข็งแรง เจ็บป่วย และติดเชื่อได้ง่าย พ่อแม่ควรให้ความสำคัญกับการดูแลเรื่องอาหารของเด็กในวัยนี้เป็นพิเศษ
อาหารที่เด็กก่อนวัยเรียนควรได้รับในแต่ละวัน (2-4 ขวบ)
-ข้าว และแป้ง นับเป็นแหล่งพลังงานหลักต่อร่างกาย เด็กในชาวงวัยนี้ควรได้รับวัน 6 ทัพพี ควรจัดเป็นข้าวสวยนิ่มๆ มากกว่าข้าวต้ม
-ผักต่างๆ การเลือกผักให้เด็กทานถือว่าเป็นเรื่องที่ยาก แต่เด็กในวัยนี้จะชื่นชอบในสีสรรค์แปลกๆ ควรจะหา แครอท ถั่วลันเตา กระหล่ำปลี บล็อคโคลี มาเสริมในอาหารให้เด็กได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ
-ผลไม้ การได้รับสารอาหารจากกากใยของผลไม้ถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับเด็กในวัยนี้ กล้วยน้ำว้า และส้มเขนวหวานจึงนับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อย
-นม เพียง 2 -3 แก้วต่อวันก็เพียงพอสำหรับเด็กในวัยนี้แล้ว และควรเลือกนมแบบจืดที่พาสเจอไร้แล้ว เพื่อให้เด็กได้รับคุณค่าจากธรรมชาติ